วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

การดูแลแคคตัสให้เติบโต

วิธีการเปลี่ยนกระถาง
หลังจากปลูกแคคตัสไประยะหนึ่ง ต้นอาจจะไม่เติบโตงอกงามเหมืนเช่นที่ผ่านมา หรือเมื่อยกกระถางดูแล้วเห็นรากเริ่มโผล่พ้นกระถางออกมานั่นเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าถึงเวลาที่ต้องทำการเปลี่ยนกระถางเสียที
การเปลี่ยนกระถางจะก่อให้เกิดผลดีต่อแคคตัส 3 ประการ คือ
1. ทำให้รากมีพื้นที่เพียงพอในการเจริญเติบโต รากที่อัดแน่นเกินไปจะทำให้ความสามารถในการดูดสารอาหารน้อยลง เป็นสาเหตุให้ต้นหยุดการเจริญเติบโต
2. ทำให้ดินไม่แน่นจนเกินไป อากาศและน้ำไม่สามารถไหลเวียนได้อย่างทั่งถึง
3. ช่วยปรับสภาพดินที่ไม่สมดุลอันเกิดจากการให้ปุ๋ยและน้ำเป็นระยะเวลายาวนาน
ควรเปลี่ยนกระถางในขณะที่วัสดุปลูกมีความชื้นพอสมควร คือไม้แห้งหรือไม้แฉะจนเกินไป ถ้าเป็นกระถางดินเผาให้ใช้นิ้วค่อยๆ ดันรูระบายน้ำที่ก้นกระถางจนต้นขยับออกจากกระถาง แต่ถ้าเป็นกระถางพลาสติกให้บีบปากกระถางเบาๆ จนดินภายในกระถางร่วงออกจากขอบกระถาง แล้วจึงค่อยๆเอียงกระถางเทต้นออกมา สังเกตดูรากว่ายังแข็งแรงดีอยู่หรือไม่ ถ้าจำเป็นก็ให้ตัดแต่งรากที่เน่าเสียออก หลังจากนั้นค่อยๆเขย่าต้นไม้เบาๆเพื่อให้ดินเก่าหลุดออกบ้างบางส่วน และรากที่เกาะกลุ่มกันอยู่คลายตัวแล้วจึงย้ายปลูกลงในกระถางใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม
- เมื่อปลูกแคคตัสไประยะหนึ่งอาจมีฝุ่นเกาะอยู่ตามผิวต้น ก็ควรดูแลทำความสะอาดเพื่อให้ต้นได้รับแสงเพื่อปรุงอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ใช้แปรงขนนุ่มปัดไล่ฝุ่นออกหรือใช้ที่เป่าผม (dryer) โดยเลือกใช้ระดับลมที่เบาที่สุด เป่าให้ห่างจากต้นไม้ประมาณ 15 เซนติเมตร ค่อยๆเป่าไล่ฝุ่นออก การปล่อยให้ฝุ่นเกาะตามผิวต้นมากๆ อาจทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโตได้
- หมั่นคอยสังเกตต้น หากเห็นส่วนไหนเน่าแห้งให้ตัดทิ้งอย่าไปเสียดาย เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแมลง สำหรับต้นที่ถูกละเลยไม่สนใจมาเป็นเวลานานจนทรุดโทรม ให้จัดการตัดแต่งส่วนที่เสียหายออกให้หมด โดยตัดให้เหนือจุดที่เสียหายประมาณ 2.5-5 เซนติเมตร หลังจากนั้นจึงรดน้ำและให้ปุ๋ย
- สำหรับแคคตัสที่แตกหน่อเติบโตรวมกันเป็นกลุ่ม การตัดแต่งรูปทรงเป็นสิ่งจำเป็นเพราะนอกจากจะทำให้ต้นสวยงามแล้ว ยังทำให้ต้นแตกหน่อใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิม
- หลังจากที่แคคตัสผลิดอกจนกระทั่งดอกเริ่มโรย ควรเด็ดดอกที่เหี่ยวแห้งออกด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ ทั้งนี้เพื่อความสวยงามและเพื่อสุขภาพที่ดีของต้น
- ทำความสะอาดบริเวณโคนต้น ตรวจดูว่ามีแมลงรบกวนหรือไม่ถ้าพบก็กำจัดออกเสีย
ถ้าอยากปลูกแคคตัสไว้ในบ้านก็ควรตั้งไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง สังเกตทิศทางของแสงถ้าแสงเปลี่ยนทิศทางก็ควรย้ายต้นตาม ควรหมั่นสังเกตต้นว่ามีสีซีดลงหรือไม่ ลำต้นยืดยาวเกินไปหรือเปล่า หนามหดสั้นหรือดูแคระแกร็นไปไหม ถ้าเกิดอาการเหล่านี้กับแคคตัสนั่นแสดงว่าต้นได้รับแสงไม่เพียงพอกับความต้องการ ให้รีบตัดแต่งลำต้นส่วนที่ได้รับความเสียหายทิ้งและย้ายต้นไม้ไปยังบริเวณที่มีแสงเพียงพอ ต้นไม้ก็ค่อยๆแข็งแรงดังเดิม
ส่วนกรณีที่อยากยกกระถางมาตั้งภายในห้องหรือในที่ร่มนั้น ควรปล่อยให้ดินปลูกแห้งเสียก่อนที่จะนำเข้ามาไว้ในห้อง และไม่ควรรดน้ำในขณะที่ต้นยังตั้งอยู่ในห้องด้วยเพราะในห้องนั้นไม่มีแสงแดดที่จะให้ต้นดูดน้ำไปใช้สังเคราะห์แสง ถ้าวัสดุปลูกเปียกต้นอาจเน่าตายได้ จะรดน้ำก็ต่อเมื่อนำต้นออกไปรับแสงเท่านั้น
ปัญหานี้ถือว่าเป็นปัญหาหลักของผู้ปลูกแคคตัสเกือบทุกคนก็ว่าได้ คือปัญหาที่แคคตัสบางพันธุ์ค่อนข้างจะอ่อนไหวต่อแสง ต้นจะไม่ยอมผลิตาดอกจนกว่าจะได้รับแสงไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นเมื่อเลือกซื้อแคคตัสก็ควรสอบถามข้อมูลจากผู้ขายว่าต้นต้องการแสงมากน้อยแค่ไหน ออกดอกช่วงไหน ควรงดน้ำในช่วงไหนบ้าง จะได้กำหนดบริเวณที่จะตั้งและการรดน้ำได้ถูกต้องตรงตามความต้องการ
ข้อแนะนำ
* การตัดแต่งควรทำในช่วงฤดูฝน ไม่ควรตัดแต่งในช่วงฤดูที่ต้นผลิดอก
* การตัดแต่งควรใช้กรรไกรหรือมีดที่คม เพราะถ้าใช้กรรไกรทื่อจะทำให้เกิดรอยแผลมากเกินความจำเป็น จนอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อได้

2 ความคิดเห็น:

TheCareLove กล่าวว่า...

เออ คือผมมือใหม่หัดปลูกนะครับ
ถ้าคุณพอมีความรู้เรื่องพันธุ์แคคตัสอยู่บ้าง
ช่วยแนะนะผมหน่อยได้มั้ยครับ
facebook ผมชื่อ ชัยวัฒน์ มากรุง

pg slot99th กล่าวว่า...

pgsoft pgslot รวมเกมดัง เว็บไซต์สล็อต pgsoft pgslot ศูนย์รวมเกมสล็อตแตกง่าย มีเกมจากทุกค่าย มีทุกเกมบนโลก เกมที่กำลังเป็นกระแส หรือ เกมนอกกระแสก็ตาม เราได้ทำซื้อลิขสิทธิ์แท้โดยตรง